ความร่วมมือจีน-ไทย ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรยานยนต์พลังงานใหม่ในประเทศไทย

ณ ศูนย์ฝึกอบรมยานยนต์พลังงานใหม่ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ประเทศไทย นักศึกษากว่า 30 คนล้อมรอบรถยนต์พลังงานใหม่จากจีน ตั้งใจฟังอาจารย์สุภัทรอธิบายวิธีการตรวจหาข้อบกพร่องของยานยนต์พลังงานใหม่ ขณะเดียวกัน จอภาพขนาดใหญ่ของแพลตฟอร์มฝึกปฏิบัติการวินิจฉัยข้อบกพร่อง ก็แสดงประเด็นความรู้สำคัญด้วยภาษาจีน ไทย และอังกฤษ

อาจารย์สุภัทรเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ศูนย์ฝึกอบรมแห่งนี้เป็นศูนย์ฝึกอบรมยานยนต์พลังงานใหม่แห่งแรกของประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานก็เป็นมหาวิทยาลัยแรกของประเทศไทยที่เปิดสาขาวิชายานยนต์พลังงานใหม่ "GAC ให้การสนับสนุนด้านยานพาหนะ อุปกรณ์ตรวจสอบ และหลักสูตรการฝึกอบรมแก่มหาวิทยาลัย ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติได้ดีขึ้น"

ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ศูนย์ฝึกอบรมแห่งแรกของประเทศไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรยานยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งก่อตั้งโดย GAC ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท จีเล่อ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป ประเทศไทย และ Tencent ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณ์ ศรีบูรณ นายกสภาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวว่า ศูนย์ฝึกอบรมซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบูรณาการที่รวมการเรียนทฤษฎี การปฏิบัติจริง และการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยี มีเป้าหมายเพื่อจัดหาทรัพยากรการศึกษาด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่แก่นักศึกษาไทยและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ นับตั้งแต่เปิดตัว มีนักศึกษามหาวิทยาลัยกว่า 300 คนได้รับการฝึกอบรมแล้ว

ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตยานยนต์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2030

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือระหว่างจีนและไทยในด้านยานยนต์พลังงานใหม่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ณ เดือนกรกฎาคมของปีนี้ BYD ได้ส่งมอบยานยนต์พลังงานใหม่สะสมแล้ว 90,000 คันในประเทศไทย

ในขณะที่ยานยนต์พลังงานใหม่ของไทยพัฒนาอย่างรวดเร็ว ก็ประสบกับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้วย Wang Haoyong ผู้จัดการทั่วไปของ GAC International Thailand Sales Company กล่าวว่า ในกระบวนการของการพัฒนาตลาดไทย GAC ได้สำรวจรูปแบบนวัตกรรม "การส่งออกการบูรณาการระหว่างอุตสาหกรรมและการศึกษา"

เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานและ GAC International Thailand Sales Company ได้ลงนามในข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้ฝึกงานในองค์กรและสถาบันที่เกี่ยวข้อง ดำเนินงานพัฒนาบุคลากรและยกระดับศักยภาพในด้านเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า และส่งเสริมการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยต่อไป

Wang Haoyong เปิดเผยว่า หัวใจของความร่วมมือระหว่าง GAC และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานคือการบรรลุการบูรณาการอย่างลึกซึ้งระหว่าง "มาตรฐานของจีน + บริบทของไทย" GAC นำเทคโนโลยีและมาตรฐานการผลิตที่ทันสมัยของจีนเข้ามาในประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาไทยสร้างสาขาวิชาและฐานการฝึกปฏิบัติการด้านพลังงานใหม่จีน-ไทย และร่วมกันสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่

"สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจที่สุดในการเรียนที่นี่คือการได้เห็นรถยนต์พลังงานใหม่จริงๆ สามารถเห็นโครงสร้างของรถได้อย่างชัดเจน และเข้าใจความแตกต่างระหว่างรถยนต์พลังงานใหม่กับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน" กล่าวโดย วัชรพา นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ซึ่งเผยว่าเขาไม่เพียงแต่ได้เรียนรู้เทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่ที่นี่ แต่ยังได้เรียนภาษาจีนด้วย และหลังจากสำเร็จการศึกษา เขาต้องการเป็นวิศวกรยานยนต์พลังงานใหม่

อาจารย์สุภัทร กล่าวว่า นักศึกษาได้รับประโยชน์จากโอกาสการฝึกงานที่บริษัทผลิตรถยนต์ของจีนมอบให้ ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์เทคโนโลยีและกระบวนการทำงานที่เป็นสากลโดยตรง และมีโอกาสได้งานหลังจากฝึกงาน ดังนั้นสาขายานยนต์พลังงานใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือจีน-ไทยจึงได้รับความนิยมจากนักศึกษาเป็นอย่างมาก

Huang Yongjie ประธานบริษัท จีเล่อ เอ็ดดูเคชั่น กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างไทยและจีนไม่เพียงแต่พัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ระดับนานาชาติและทักษะวิชาชีพให้กับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเฉียงใต้เท่านั้น แต่ยังจะส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อการพัฒนาระยะยาวของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาคอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ดร.กฤษณ์ กล่าวเสริมว่า "ศูนย์ฝึกอบรมยานยนต์พลังงานใหม่ไม่เพียงแต่เปิดรับนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงคมนาคมของไทย เพื่อฝึกอบรมช่างเทคนิคในระบบขนส่งทั่วประเทศ ถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์พลังงานใหม่และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอื่นๆ ของจีนสู่ประเทศไทย"