พ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวงโอดรายได้หด แบกรับภาระของแพงต้องกู้หนี้ยืมสิน
เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าต่างๆ และรถพุ่มพวงที่เข้ามาขายของภายในหมู่บ้านปิยวรารมย์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังช่วงนี้สินค้าแทบจะทุกชนิดปรับราคาสูงขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 65 รวมไปถึงรถพุ่มพวงหลายๆ คันที่ขายสินค้าเข้าออกตามหมู่บ้านต่างๆ ที่มีทั้งของสด อาหารทะเล ผักสด เครื่องปรุงต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นในแต่ละวัน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ก็ต้องแบกรับภาระต่างๆ ทั้งค่าน้ำมันที่แพงขึ้น ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันจากเดิมที่เคยพอใช้ ตอนนี้หลายครอบครัวต้องกลายเป็นกู้หนี้ยืมสินมาในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้
นายกวาง มูลสุวรรณ์ อายุ 44 ปี พร้อมภรรยา อาชีพขายผักพร้อมเนื้อสัตว์ รถพุ่มพวง กล่าวว่า ตอนนี้ราคาเนื้อหมูแพงมาก ลูกค้าจากเมื่อก่อนที่เคยซื้อ ตอนนี้บางคนก็ไม่ซื้อเลย รวมไปถึงเนื้อไก่หรือผักต่างๆ ราคาปรับตัวสูงขึ้นหมด ตอนนี้ตนต้องซื้อของมาขายลดลงเพราะว่าคนซื้อของน้อยลง แต่ภาระค่าใช้จ่ายที่ยังมีเหมือนเดิม ขนาดตอนนี้ตนเอาเนื้อหมูมาขายแค่วันละสองกิโล ยังขายไม่หมดเลยเพราะคนไม่มีกำลังจะซื้อ แต่ก่อนเอามาขายไม่พอด้วยซ้ำ เมื่อก่อนนี้ขายของได้กำไรในแต่ละวันสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ แต่พอมาตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงกำไรเลย ขนาดจะไปซื้อของทำกับข้าวเดี๋ยวนี้ไม่เคยซื้อเลย ก็เอาของในรถเรานี่แหละทำกับข้าวกินกัน ก็อยากจะฝากไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลค่าครองชีพทุกอย่าง ราคาของมันแพงเกินไป ประชาชนจะตายกันอยู่แล้ว
ด้านนายเก๋ อายุ 42 ปี อาชีพขายส้มตำรถพ่วงข้างวิ่งไปตามหมู่บ้าน-ชุมชนต่างๆ กล่าวว่า ตอนนี้ราคามะละกอค่อนข้างแพง ตนใช้วิธีซื้อเป็นลูกๆ เพราะซื้อเป็นถุงสู้ราคาไม่ไหว ราคาเป็นถุงน่าจะอยู่ที่ 200-300 บาท แต่ตนก็ไม่เคยซื้อเพราะไม่อยากจะเอาเงินไปจมอยู่ตรงนั้น แต่ก่อนมะละกอราคาอยู่ที่ลูกละ 10 กว่าบาท ตอนนี้ราคาอยู่ที่ลูกละ 20-30 บาท ขายให้ลูกค้าในปริมาณเท่าเดิมเราไปลดปริมาณของที่ใส่ให้ลูกค้าไม่ได้ เพิ่มก็ไม่ได้ กำไรไม่ต้องพูดถึงพอมีกินแต่ไม่พอเหลือเก็บ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ขายดี ราคาของก็ใช้ทุนน้อย ขายมีกำไรเหลือเก็บ อยากฝากให้ช่วยควบคุมราคาของหน่อย ให้หมูราคาลดลงหน่อย เดี๋ยวนี้อะไรๆ ก็แพง ผักก็แพง มะละกอก็แพง เมื่อก่อนนี้ลงทุนไม่ถึงพันนึงแต่ขายของได้กำไร 2-3 พันบาท ตอนนี้ราคาของขึ้น ลงทุนเยอะคนซื้อน้อยลง กำไรในแต่ละวันก็พอเหลือกินแต่เก็บไม่ได้ ตนก็ต้องขายของราคาเท่าเดิมปริมาณเท่าเดิมเพราะขายอย่างนี้มาหลายปีแล้ว
ถัดไป: กทม.ประกาศแล้ว ขยายเวลา ‘ดริ๊งค์’ ในร้านถึง 5 ทุ่ม เริ่ม 24 ม.ค.นี้
การอ่านที่เกี่ยวข้อง
- PRINC ปั้น 'AES CLASS CLINIC' รุกตลาดคลินิกความงาม
- กทม.ประกาศแล้ว ขยายเวลา ‘ดริ๊งค์’ ในร้านถึง 5 ทุ่ม เริ่ม 24 ม.ค.นี้
- อว.เปิด7 ขั้นตอนลงทะเบียนเรียนข้ามมหา’ลัย 25 สถาบันเร่งอัพเดตรายวิชา
- เอกอัครราชทูตจีนเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกฯ ประวิตร พร้อมยืนยันกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อฟื้น
- ‘น้ำโขง’วิกฤติ! แห้งขอดเร็วรอบ 50 ปี ต่ำสุดเหลือแค่ 1 เมตรส่อ ‘แล้งหนัก’
- สำนักพระราชวัง ชวนลงนามถวายพระพร วันคล้ายวันประสูติ 'กรมหมื่นสุทธนารีนาถ'
- ระดมสัตวแพทย์ช่วยระทึก! ‘คุณปู่ป่าละอู’ ช้างป่าอุทยานฯแก่งกระจาน วิกฤติถูกยิงสาหัส
- เซนต์สตีเฟ่นส์ กรุงเทพฯ ยกเสาเอกสร้างแคมปัสใหม่ พร้อมเปิดให้บริการ ปี 2568
- แพลตฟอร์ม ONEPIP ผู้บุกเบิกฟินเทคในปี 2565
- พ่อค้าแม่ค้ารถพุ่มพวงโอดรายได้หด แบกรับภาระของแพงต้องกู้หนี้ยืมสิน